วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่


เกิดคดีความฟ้องร้องต่อศาล


ชายเหี้ยมหาญฮึกสยบตบผู้หญิง

สอบปากคำจำเลยเผยความจริง

เหตุผลติงสำนวนต่อน่าพอใจ

พิจารณาสรุปความคำถามสุดท้าย

จำเลยชายต้องตอบคำถามใหม่

“คุณเป็นชายแล้วไปตบหล่อนทำไม

เหตุผลใดให้การมาอย่าโมเม”

ชายเหลือบดูคู่กรณีเห็นทีหยิ่ง

แล้วให้การตามจริงไม่หันเห

ผมเจอหล่อนที่ป้ายจอดรถเมล์

ยืนหน้าเบ้บุญไม่รับอัประมาณ

ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันมันงี่เง่า

พอกระเป๋าเขามาเก็บค่าโดยสาร

เธอสำแดงฤทธิ์เดชบอกออกอาการ

สุดทนทานนั่งข้างเธอ ผมเผลอไป

เธอเปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก

เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่

หยิบแบงก์จากกระเป๋าเล็กในทันใด

แล้วเปิดกระเป๋าใหญ่ในทันที

เธอปิดกระเป๋าเล็กแล้วใส่ลงกระเป๋าใหญ่

ส่งเงินให้เด็กกระเป๋าขมันขมี

พลางปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอรี

ครั้นรับตั๋วทันทีเธอฉับไว

เปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก

เปิดกระเป๋าเล็กแล้วเปิดกระเป๋าใหญ่

เอาตั๋วใส่กระเป๋าเล็กอย่างเร็วไว

แล้วเธอเปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอช้า

ปิดกระเป๋าเล็กแล้วใส่ลงกระเป๋าใหญ่

แล้วก็ปิดกระเป๋าใหญ่อย่างแน่นหนา

รับตังค์ทอนจากกระเป๋าแล้วกานดา

เปิดกระเป๋าใหญ่เเล้วหยิบหากระเป๋าเล็ก

เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่

ตังค์ทอนใส่กระเป๋าเล็กแล้วปิดแหง็ก

หยิบกระเป๋าใหญ่แล้วเปิดใส่กระเป๋าเล็ก

ปิดกระเป๋าใหญ่เเล้วปิดเช็คเหมือนเช่นเคย

ครั้นนายตรวจขึ้นมาหาช้าไม่

เธอเปิดกระเป๋าใหญ่หยิบกระเป๋าเล็กหน้าตาเฉย

ปิดกระเป๋าใหญ่ปิดกระเป๋าเล็กไม่ช้าเลย

หยิบตั๋วเผยให้นายตรวจได้ตรวจตรา

แล้วปิดกระเป๋าเล็กก่อนเปิดกระเป๋าใหญ่

ใส่กระเป๋าเล็กลงไปไม่กังขา

แล้วเธอปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอรา

พอรับตั๋วกลับมามิช้าไย

เปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก

เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่

เอาตั๋วใส่กระเป๋าเล็กแล้วปิดไว

เปิดกระเป๋าใหญ่ใบเล็กใส่จนนัวเนีย

ตุลาการนั่งฟังความตามคดี

บอกหยุดทีฟังแล้วน่าเวียนหัว

กระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่ดูพันพัว

น่าเวียนหัวพัลวันพอกันที

จำเลยชายได้จังหวะจึงฉะฉาน

ข้าแต่ศาลที่เคารพคิดดูถี

ท่านเพียงฟังยังเวียนหัวถึงเพียงนี้

แล้วผมนี่นั่งข้างหล่อนจะทนไย

ตุลาการพินิจผลถึงต้นเหตุ

พิจารณาพิเศษเห็นสมควรจะตบได้

จึงยกฟ้องปลดปล่อยจำเลยไป

กระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่พอกันที

..............................